05/12/2560 เวลา 06.00 น.
ถึงแว้วอัสตานา สาธารณรัฐคาซัคสถาน ดินแดนที่แบ่งแยกออกจาก สหภาพโซเวียด และเป็นเอกราชเมื่อไม่นานมานี้ มาถึงก็เข้า ตม. ซึ่งเข้ายากมาก ทั้งถามและแสดงหลักฐานหลายขึ้น วีซ่าคนไทยก็ต้องทำมาก่อนนะครับ ไม่มีหน้าด่าน ไกด์บอกว่าเคยมีก่อการร้ายที่ อัลมาตี้ ตั้งแต่นั้นมาก็ตวรจเข้มมาตลอด และที่นี่ยังปกครองโดยรัฐบาลทหาร ประธานาธิปดี นูร์ซุลตาน นาซาร์บาเยฟ อยู่ในอำนาจกว่า 26 ปีแล้ว เปรียบเป็นเสาหลักของประชาชน และกิจการส่วนใหญ่ประกอบอาชีพอุตสหกรรมน้ำมัน ซึ่งเขากำลังพยายามสร้างให้เมืองอัสตาน่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว คล้ายกับดูไบ

05/12/2560 เวลา 07.20 น.
เข้าถึงโรงแรมโอโห้กว้างและดูใหม่มาก สงสัยจะไม่ค่อยมีใครอยากมา แต่ผมจะบอกว่าดีมาก ไม่คิดว่าประเทศนี้จะดูดีและพัฒนาได้ขนาดนี้ หลังจากพักอาบน้ำก็จะนอนสักหน่อย แต่เพื่อนสิอยากจะไปถ่ายรูปหิมะ เลยออกไปหน้าโรงแรม และถ่ายกันสักพักก็กลับเข้าที่พักเพราะอากาศหนาวมมาก -15 องศาได้

05/12/2560 เวลา 12.00 น.
ออกไปทานร้านอาหารจีน จะบอกว่าตั้งแต่ที่เดินทาง วันนี้อาหารถูกปากที่สุด สะอาด และอร่อยใช้ได้ ไกด์บอกว่าที่นี่ได้จ้างคนจากประเทศอื่นเข้ามา ร่วมสร้างวัฒนธรรมใหม่ที่นี่ ร้านอาหารจีนก็จ้างเชฟคนจีนมาทำเลย ใครจะมาวื้อบ้านที่นี่ก็ได้นะครับ เขาให้สิทธิ์ต่างชาติมาซื้อได้ โดยแพงที่สุดจะอยู่ในย่านกลางเมือง ราคาจะอยู่ที่ หนึ่งล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อตารางเมตร ใครไหวก็มาจับจองกันได้นะครับ

05/12/2560 เวลา 13.00 น.
หลังทานอาหารเร็จเราก็ไปชมมหาวิหารมัสยิด Hazrat Sultan เป็นเหล่งที่มีคนที่นี่มาทำละหมาด เพราะที่นี่ 70% เป็นอิสลาม และ 20% เป็นคริสต์ อีก 10% ไม่มีศาสนา ซึ่งสถาปัตยกรรมถูกสร้างมาแบบทัชมาฮาล เปิดใช้งานเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2012 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเอกลักษณ์ของเมืองหลวง โดยเมืองอัสตานา เป็นเมืองที่ถูกสร้างมาใหม่ ทั้งเมือง มีการวางโครงสร้างของสถาปนิกหลายคน จากหลาประเทศ แบ่งเป็น 8 สไตล์ทั่วโลก เช่นสไตล์ยุโรป สไตล์เอเชีย สไตล์ตำวันออกกลาง ซึ่งจะมีทุกสไตล์ทั่วโลก เหมือนเล่นเกมส์สร้างเมืองเลย ซึ่งตอนที่ออกจากสนามบินมา ก็ยังมีการก่อสร้างอยู่คลอดสองข้างทาง

05/12/2560 เวลา 14.00 น.
เราเดินทางต่อไปถ่ายภาพกับวิวเมืองที่สวยที่สุดกับอนุสาวรีย์ Kazakh Eli พระแม่ผู้สร้างอะไรสักอย่างประมาณว่าเป็นผู้ให้ อะไรนี่แหละจำไม่ค่อยได้ เป็นสิ่งที่คนคาซัคสถานนับถือ และเราก็ไปชมกำแพงเมืองอัสตาน่าต่อ อากาศหนาวมาก แม้ว่าจะเป็นเวลาบ่าย ประมาณว่าลงมาถ่ายรูปเสร็จก็เดินทางต่อ อยู่นานไม่ได้หนาว ค่อยไปเล่าประวัติในรถเอา

05/12/2560 เวลา 15.00 น.
ตอนนี้เราเดินทางไปขึ้นหอคอยไบเทเร็ก (Bayterek Tower) มีความสูง 97 เมตร เลข 97 แทนปี ค.ศ.1997 ซึ่งเป็นปีแห่งการสถาปนากรุงอัสตานาเป็นเมืองหลวง ที่เห็นวิวมุมสูงของเมืองอัสตาน่า ซึ่งจะเห็นว่าเมืองนี้กำลังสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดปี 64 ประชากรที่นี่มีน้อยครับ ใครที่มีลูก 5 คนขึ้นไปเขาจะเรียกว่า ซุปเปอร์มัม รัฐบาลเข้ามาดูแลอย่างดี เพราะคนเขาน้อยถ้าเทียบกับพื้นที่ที่ประเทศนี้มี 9 คนต่อตารางกิโลเมตร ผมได้มีโอการขึ้นไปชมวิวที่นี่ด้วย ไกด์บอกว่าเพิ่งเปิดให้ขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อขึ้นดูโดยรอบเมืองนี้มีความสวยงามมากครับ ผังเมืองวางได้ดีมาก เพราะสร้างใหม่ทั้งเมืองเลยก็ว่าได้ นึกว่าเล่นเกมส์สร้างเมืองก็ว่าได้ ปีนี้เมืองเขามีงานด้วยนะ Astana Expo 2017 หัวข้ออนาคตของพลังงาน เห็นป้ายโปรโมทเต็มเมือง

05/12/2560 เวลา 16.00 น.
เรามาแวะ Khan Shatyr Entertainment Center เป็นเต็นท์โปร่งใสยักษ์ ในเมืองอัสตานา ถูกสร้างขึ้นในเดือนธันวาคม 2008 และเสร็จสมบูรณ์และเปิด 5 กรกฏาคม 2010 วันคล้ายวันเกิดปีที่ 70 ของประธานาธิบดีคาซัคสถานด้วย ดูแล้วจะออกแบบคล้ายเต็นท์ที่พักของกษัตริย์มองโกล ที่นี่มีร้านขายของมากมายเหมือนห้องสรรพสินค้าแหละ แต่คนเดินน้อยนะหรือผมอาจจะไปช่วงเวลายังไม่เลิกงานกัน หรือมันไม่มีคนจริงๆ ไม่แน่ใจนะ เราก็ได้แวะซื้อของฝากกลับไทย เออลืมบอกว่าที่นี่ใช้บัตรเครดิตและเงินดอลล่าร์ได้ ไม่ต้องแลกถ้ามาไม่นาน

05/12/2560 เวลา 17.00 น.
สาธารณรัฐคาซัคสถาน เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่ครอบคลุมกว้างขวางในทวีปเอเชีย และเป็นสาธารณรัฐในอดีตสหภาพโซเวียต มีพรมแดนติดกับประเทศรัสเซีย สาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศในเอเชียกลาง คาซัคสถานเป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 9 ของโลก คาซัคสถานเป็นสาธารณรัฐประธานาธิบดี ประธานาธิบดีคนแรกและยังดำรงตำแหน่งถึงปัจจุบันคือ นูร์ซุลตาน นาซาร์บาเยฟ ประธานาธิบดียังเป็นผู้บัญชาการทหารบกของกองกำลังติดอาวุธและอาจยับยั้งกฎหมายที่ได้รับการผ่านโดยรัฐสภา มีนายกรัฐมนตรี คาริม มาสสิมอฟ เป็นหัวหน้ารัฐบาล ได้รับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ตอนนี้ห้าโมงเย็นแล้ว ถึงเวลากลับบ้านแล้ว คิดถึงบ้านเราจะแย่ละครับ มานานมาก สำหรับใครที่จะมาเที่ยวเองก็ได้นะ เตรียมตัวให้พร้อม ผมว่าผ่านไม่ยากเท่าเกาหลี ปลอดภัยด้วยครับ ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลย สำหรับทริปลากยาว 9 วัน 6 คืน สองประเทศ คงต้องจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวต่อไปนะครับ