พระตำหนักดอยตุง
พระตำหนักดอยตุงเริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2530 เมื่อสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มี พระชนมายุ 88 พรรษา โดยก่อนหน้านั้นมีพระราชกระแสว่า หลังพระชนมายุ 90 พรรษา จะไม่เสด็จไปประทับที่ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สำนักงานราชเลขานุการในพระองค์ จึงได้เลือกดอยตุง อาคารพระตำหนักดอยตุง มีลักษณะการก่อสร้างเป็นการผสมผสานระหว่าง สถาปัตยกรรมล้านนา บ้านปีกไม้ และบ้านแบบพื้นเมือง ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มี 2 ชั้น และชั้นลอยที่ประทับ ชั้นบนแยกเป็น 4 ส่วน แต่เชื่อมเป็นอาคารหลังเดียวกัน เสมอกับลานกว้าง นับว่ามีความสวยงามอย่างมาก
ทรงเรียกพระตำหนักนี้ว่า "บ้านที่ดอยตุง" วัตถุประสงค์แรกทั้งรัฐบาล ข้าราชบริพารตั้งใจให้เป็นที่ประทับแปรพระราชฐานแทนที่จะเสด็จไปประทับ ณ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ แต่สำหรับพระองค์ท่านแล้ว หากว่าไม่มีโครงการพัฒนาดอยตุงฯ ไม่มีงานถวายให้ทรง ไม่เสด็จมาประทับอยู่ที่นี่ ภายในดอยตุงจะแบ่งสถานที่ให้เข้าชมดังนี้ 1.หอแห่งแรงบันดาลใจ 2.พระตำหนักดอยตุง 3.สวนแม่ฟ้าหลวง 4.สวนรุกขชาติดอยช้างมูบ
ผมได้ไปทำงานและแวะไปชม หอแห่งแรงบันดาลใจ พระตำหนักดอยตุง และ สวนแม่ฟ้าหลวง มีความรู้สึกว่ามันสวยมากครับ แบบธรรมชาติ ร่มรื่น เนื่องจากผมมาในช่วงเวลางานคนไม่เยอะเท่าไหร่ครับ พอถึงพระตำหนักดอยตุงก็หาที่จอดรถ ด้านบนมีของกินให้เลือกอยู่ 4-5 ร้านได้เป็นพวกก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง ขนมจีน ข้าวซอย ราคาก็ไม่แพงจานละ 40-50 บาท และค่าเข้าชมก้ไม่แพงนะครับ ถือว่าบำรุงสถานที่เสียมากกว่า ชมสวนแม่ฟ้าหลวงก็ 80 บาท ชมพระตำหนักดอยตุงก็ 70 บาท ชมหลายที่ก็ซื้อเป็นแพ็กเกจ ในการเข้าไปชมด้านในพระตำหนักจะเช้าชมเป็นรอบๆครับ รอบละ 20 นาที ตอนที่ผมไปก็รอรอบอยู่ 3 นาที เมื่อถึงเวลาแล้วก็จะประกาศให้เข้าชม มีไกด์นักศึกษาคอยบรรยายให้ความรู้ แต่เนื่องจากผมไปกับชาวต่างชาติ ก็เลยมีหูฟังคำแปลของภาษานั้นเตรียมให้ แต่เราต้องติดต่อก่อนเข้าชมนะครับ นี่เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งที่ผมประทับใจ โดยเฉพาะหอแห่งแรงบันดาลใจ ชอบม๊ากกกก